John Wick: Chapter 3 – Parabellum — จอห์น วิค แรงกว่านรก 3
130 MIN. — 2019
Chad Stahelski — แชด สตาเฮลสกี้
***** มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง John Wick: Chapter 3 – Parabellum หรือ จอห์น วิค แรงกว่านรก 3 *****
ผลลัพธ์ของสิ่งที่ จอห์น วิค ทำลงไปในช่วงท้ายของภาคที่สอง ได้เปลี่ยนแปลงสถานะของเขาจากผู้ล่ามาเป็นผู้ถูกล่าอย่างเต็มตัวในภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง John Wick: Chapter 3 – Parabellum หรือ จอห์น วิค แรงกว่านรก 3 ทั้งการที่เขาถูกตัดขาดออกจากระบบการให้บริการของโรงแรมคอนทิเนนทัล และความช่วยเหลือจากภาคส่วนอื่น ๆ ที่อยู่ใต้การปกครองของสภาสูง รวมไปถึงการที่เขาถูกตั้งค่าหัวไว้สูงถึง 14 ล้านเหรียญ เป็นเหตุทำให้ทุกกระบอกปืนในนิวยอร์คซิตี้หันเข้าหาเขาโดยทันที
การที่ จอห์น ตกเป็นผู้ถูกล่านี้ทำให้ความตึงเครียดของเรื่องราวทวีคูณขึ้นมา เพราะในภาพยนตร์ภาคก่อน ๆ เขาถูกสนับสนุนเครื่องมือในการล่าของเขาจากผู้ให้บริการที่อยู่ใต้อำนาจการปกครองของสภาสูง และเมื่อเขาถูกอเปหิออกมาจากระบบ ทำให้หลังจากนี้การต่อสู้ของเขากลายมาเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอย่างแท้จริง
ซึ่งเราจะเห็นกันได้ตั้งแต่การต่อสู้ในช่วงต้นของเรื่องที่เขาต้องสังหารคนที่มุ่งเอาชีวิตเขาด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เท่าที่เขาพอจะหาได้รอบตัว ทั้งหนังสือ, ปืนเก่าเก็บ ไปจนถึงของมีคมที่ถูกเก็บไว้ในร้านขายของเก่า ทำให้ฉากแอคชั่นต่างที่เกิดขึ้นมีความลื่นไหลมากกว่าภาพยนตร์ทั้งสองภาคก่อนหน้า เพราะว่า จอห์น ต้องเอาตัวรอดไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะไปถึงสถานที่ที่เขาหวังว่าจะให้ความช่วยเหลือกับเขาได้ ทั้งทวียังมีความโหดมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เห็นได้จากฉากของการต่อสู่ในร้านขายของเก่า ที่การมีนำเสนอฉากของการใช้ของมีคมแทงเข้าไปในร่างกายในแบบโคลสอัพ และสิ่งที่สำคัญคือการที่ตัวภาพยนตร์ยังคงพยายามที่จะรักษาความสมดุลระหว่างความสวยงามและความสมจริงของฉากแอคชั่นไว้ได้ ทำให้มันไม่ให้กลายเป็นเหมือนการเล่นเกมสังหารคนเพื่อผ่านไปยังอุปสรรคด่านต่อไปของ จอห์น
ยิ่งเมื่อภาพยนตร์เดินทางไปถึงฉากแอคชั่นในช่วงท้ายของเรื่อง ก็ถือว่ามันได้ทำหน้าที่ของตนเองในฐานะภาพยนตร์แอคชั่นเรื่องหนึ่งอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะว่า จอห์น ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่เขาสังหารได้ยากกว่าที่เคย และการที่ศัตรูมีความอึดเกินกว่าที่เขาเคยเจอมานี้ ทำให้เขาต้องหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะมาสังหารนักล่าที่ถูกส่งมาจากสภาสูงเหล่านี้ ทำให้เกิดขึ้นเป็นฉากแอคชั่นต่อเนื่องความยาวรวมกันแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง ที่ดุเดือดและสร้างสรรค์จนเรียกได้ว่า มันได้กลายมาเป็นหมุดหมายใหม่ของภาพยนตร์แอคชั่นฟอร์มยักษ์ที่จะถูกสร้างหลังจากนี้ไปแล้ว
อีกสิ่งที่หนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมาจากภาคอื่น ๆ เป็นเพราะเหล่าตัวละครสมทบที่มีสเน่ห์และแง่มุมที่น่าสนใจ ทั้ง วินสตัน และ เดอะ บาวเวอร์รี่ คิง ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งอยู่แล้ว เสริมด้วยเพื่อนเก่าของ จอห์น อย่าง โซเฟีย ที่รับบทโดย ฮัลลี เบอรี่ร์ ซึ่งมาพร้อมกับสุนัขคู่ใจสองตัวของเธอ ตุลาการ ที่รับบทโดย เอเชีย เคท ดิลลอน ที่เป็นตัวร้ายหลักของเรื่องที่ราศีจับสุดที่สุดแล้วในเฟรนไชส์ ตลอดจนตัวละครมือสังหารแฟนคลับของ มิสเตอร์วิค อย่าง ซีโร่ ที่รับบทโดย มาร์ค ดาคาสคอส และลูกน้องสองคนของเขาที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเคยมีบทบาทในภาพยนตร์อย่าง The Raid 2 (2014) หรือ ฉะ! ระห้ำเมือง ก็มีบทบาทโดดเด่นทุกคน
ประเด็นของเรื่องเป้าหมายของ จอห์น ที่อยากจะมีชีวิตต่อไปแม้ว่าจะต้องกลับไปตกเป็นทาสของสภาสูงอีกครั้งก็ตาม ก็ได้ช่วยเสริมให้ส่วนของเรื่องราวดราม่าในภาคนี้โดดเด่นขึ้นมา เมื่อรวมเข้ากับประเด็นเรื่องราวในอดีตของเขากับสำนักรุสกาโรมา และอดีตระหว่างเขากับ โซเฟีย ที่ต้องการปกป้องสิ่งที่ตนเองเองรักเหมือนกัน ก็ทำให้ความเข้มข้นของเรื่องราวในภาคนี้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ฉากแอคชั่นเลย
อย่างไรก็ตาม ก็มีเรื่องที่ส่วนตัวไม่ค่อยจะชอบใจนักในเฟรนไชส์ภาพยนตร์มือสังหารนี้ คือ การที่มันมักจะเสกตัวละครหรือองค์กรต่าง ๆ ขึ้นมาจากอากาศธาตุ โดยไม่มีเบื้องหลังอะไรเลยหรือไม่ก็มีเบื้องหลังเพียงน้อยนิดในภาคก่อนหน้า ซึ่งก็จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นในภาคนี้ ก่อนที่จะยิ่งหนักข้อขึ้นในภาคที่สี่ของเฟรนไชส์ ข้อบกพร่องตรงจุดนี้อาจจะทำให้ผู้ชมที่ให้ความสำคัญกับเส้นเรื่องในภาพยนตร์รู้สึกหงุดหงิดอยู่พอสมควร
โดยสรุปแล้ว จอห์น วิค แรงกว่านรก 3 ถือว่าเป็นภาพยนตร์ภาคที่ลงตัวมากที่สุดในเฟรนไชส์ ทั้งในเรื่องของฉากแอคชั่น, ความดราม่า ,ความสวยงามของงานภาพ และความกว้างใหญ่ของจักรวาลมือสังหาร ที่ทุกอย่างพัฒนาขึ้นมาจากภาคก่อน ๆ แต่ก็ไม่มากล้นจนเกินไปแบบภาคล่าสุดที่กำลังเข้าฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ตอนนี้