John Wick — ภาคเปิดจักรวาลมือสังหารที่ความจริงแล้วอาจจะสะบักสะบอมกว่าที่คุณคิด

John Wick — จอห์น วิค แรงกว่านรก

101 MIN. — 2014

Chad Stahelski — แชด สตาเฮลสกี้

David Leitch — เดวิด ลิตช์

 

***** มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง John Wick หรือ จอห์น วิค แรงกว่านรก *****

สัปดาห์นี้เราจะชวนย้อนกลับไปพูดคุยถึงเรื่องราวของจักรวาลมือสังหาร ในโลกที่มีชายที่มีชื่อว่า จอห์น วิค อาศัยอยู่ เพื่อเป็นการต้อนรับการเข้าฉายของ John Wick: Chapter 4 (2023) หรือ จอห์น วิค แรงกว่านรก 4 ที่จะเป็นเรื่องราวการต่อสู้อันยิ่งใหญ่เพื่อโค่นล้มสภาสูงและเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่บนจุดสูงสุดขององค์กรมือสังหาร แต่หากเรามองย้อนกลับไปเมื่อเก้าปีก่อน ภาพยนตร์ จอห์น วิค ในภาคแรกยังเป็นเพียงแค่หนังล้างแค้นที่เกือบจะเป็นภาพยนตร์ธรรมดาทั่วไป ที่มีจุดเด่นเป็นฉากแอคชั่นที่เป็นฝีมือของอดีตคู่หูสตั๊นแมนจากฮอลลีวู้ดเท่านั้น

เพราะว่าเรื่องราวของตัวละครลึกลับผู้ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลังเพื่อมาใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดา แล้วก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้เขาหรือเธอต้องกลับไปสู่เส้นทางของความรุนแรงอีกครั้ง เป็นพลอตเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปทั้งในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ยกตัวอย่างเช่น Taken (2008) หรือ สู้ไม่รู้จักตาย และ The Equalizer (2014) หรือ มัจจุราชไร้เงา และภาพยนตร์ต่างประเทศอื่น ๆ อย่างเช่น The Man from Nowhere (2010) หรือ นักฆ่าฉายาเงียบ จากประเทศในทางฝั่งเอเชียอย่างเกาหลี

แต่สิ่งที่ทำให้ จอห์น วิค โดดเด่นขึ้นมาในเรื่องความเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากกว่า ก็เพราะสเน่ห์และชื่อเสียงของนักแสดงนำของเรื่องนี้ อย่าง คีอานี รีฟส์ ผู้ที่เป็นแอคชั่นสตาร์มาตั้งแต่ในยุค ’90s ซึ่งเขารับบทนำในภาพยนตร์แอคชั่นอย่าง Point Break (1991) หรือ คลื่นบ้ากระแทกคลื่นบ้า, Speed (1994) เร็วกว่านรก และไตรภาค The Matrix (1999-2003) รวมไปถึงงานแสดงในยุคหลังอย่าง Constantine (2008) หรือ คนพิฆาตผี และ 47 Ronin (2013) หรือ 47 โรนิน ที่เรื่องหลังนี้ไม่ค่อยจะเป็นที่ชื่นชอบของนักวิจารณ์เท่าใดนัก แต่ในปีต่อมา จอห์น วิค ก็ปลุกชีพนักแสดงคนนี้ขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเรื่องราวของการแก้แค้นให้สุนัขหนึ่งตัวและรถอีกหนึ่งคัน ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเรื่องราวที่แปลกไม่เท่าไหร่นัก แต่ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ

เรื่องราวของ จอห์น วิค ในภาคแรกถูกสร้างขึ้นด้วยทุนสร้างราว $20 ล้านเหรียญ แต่คุณภาพในหลาย ๆ ส่วนกลับออกมาค่อนข้างแย่เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ถูกใช้ไป โดยเฉพาะเรื่องของการจัดองค์ประกอบแสงในฉากเปิดเรื่องบ้านของ จอห์น ที่ออกมาคล้ายกับภาพยนตร์เขย่าขวัญทุนตํ่าอีกเรื่องหนึ่งที่ คีอานู รีฟส์ นำแสดงอย่าง Knock Knock (2015) หรือ ล่อมาเชือด ของผู้กำกับ อีไล รอธ ที่ทั้งผู้ชมทั่วไปและนักวิจารณ์เกลียดเข้าไส้ยิ่งกว่า 47 โรนิน เสียอีก รวมไปถึงฉากแอคชั่นในภาคนี้ที่ถือว่าน่าประทับใจ ทั้งฉากที่บ้านของ จอห์น และฉากในโรงอาบนํ้าต่อเนื่องไปที่บาร์ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าจดจำเมื่อเปรียบเทียบกับฉากแอคชั่นในภาคต่อ ๆ มาของเฟรนไชส์ โดยเฉพาะฉากไล่ล่าในช่วงท้ายที่สุดของเรื่องที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นเชยเลยทีเดียว

แต่ก็ต้องชื่นชมในเรื่องของการสร้างจักรวาลมือสังหารเล็ก ๆ ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งในเรื่องของการใช้เหรียญทองเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยน, การมีอยู่โรงแรมของเหล่ามือสังหารที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์บางอย่าง แม้ว่าเหล่าตัวละครสมทบบางตัวในจักรวาลแห่งนี้จะขาดสเน่ห์ไปบ้าง ทั้งตัวละคร มาร์คัส ของ วิลเล็ม ดาโฟ และ เพอร์กินส์ ของ เอเดรียน พาลิคกี้ โดยเฉพาะคนแรกที่เป็นนักแสดงฝีมือดีมากคนหนึ่ง แต่บทบาทที่เขาได้รับกลับไม่ได้มีคุณค่ามากมายนัก

ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีบาดแผลสะบักสะบอมไม่ต่างจาก มิสเตอร์วิค ที่ต้องปะทะกับเหล่ามือสังหารมากมายในเรื่อง แต่มันก็เป็นการวางรากฐานที่ดีให้กับจักรวาลภาพยนตร์มือสังหารในอีกสามภาคต่อมาด้วยตอนจบแบบปลายเปิด จากภาพยนตร์แอคชั่นที่เป็นการทำเพื่อสนองความต้องการของตนเองของคู่หูผู้กำกับที่ไม่ได้คิดว่าจะมีภาคต่อในวันนั้น กลายมาเป็นหนึ่งในเฟรนไชส์ภาพยนตร์แอคชั่นแห่งยุคสมัย ที่จัดจ้านไปด้วยการออกแบบฉากต่อสู้ที่เร้าใจและการใช้องค์ประกอบทางภาพและเสียงที่แหกขนบจนทำให้ฉากแอคชั่นในเรื่องออกมาสวยงามไม่ต่างจากงานประติมากรรม

Comments

comments