เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก ผู้กำกับภาพยนตร์ Until Dawn หรือ ต้องรอดก่อนย่ำรุ่ง ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจรับงานกำกับในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเขาเองเพิ่งจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากทำงานในภาพยนตร์ Shazam! Fury of the Gods (2023) หรือ ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า
“สิ่งที่ผมรักเกี่ยวกับบทหนังเรื่องนี้ก็คือ มันไม่ได้พยายามที่จะสร้างเกมขึ้นมาอีกครั้ง”
“ความพยายามที่จะย่อช่วงเวลาสิบชั่วโมงให้เหลือแค่สอง หรืออะไรทำนองนั้น แต่มันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี แม้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่จะเป็นสิ่งใหม่ก็ตาม”
“ที่ผมหมายถึงก็คือ ถ้าให้พูดกันตามตรงแล้ว แฟน ๆ สามารถที่จะบ้าคลั่งใส่คุณได้มาก ๆ และโกรธเกรี้ยวใส่คุณได้มาก ๆ คุณอาจจะได้รับอะไรแบบว่า คำขู่ฆ่า และทุกสิ่งทุกอย่างหลังจาก ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า ก็ทำให้ผมคิดเลยว่า ‘ผมจะไม่มีทางทำหนังที่ดัดแปลงมาอีกแล้ว เพราะว่ามันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย’”
“แต่หลังจากที่ผมได้รับบทชิ้นนี้มา แล้บผมก็คิดเลยว่า ‘อ่าห์ นี่คงจะเป็นอะไรที่สนุกเอามาก ๆ ที่จะได้ทำ การที่จะได้ทำเรื่องสยองทั้งหมดนี่งั้นเหรอ? เหมือนกับว่าผมจะต้องทำมันซะแล้ว และก็หวังว่าผู้ชมจะเห็นสิ่งที่เราพยายามที่จะทำและชื่นชอบมัน’”
“ผมคิดจริง ๆ เลยนะว่า มันเป็นอะไรที่เฉียบแหลมมาก ที่ทีมเขียนบทคิดแนวทางเรื่องลูปเวลา ที่ซึ่งคำ่คืนจะเริ่มต้นใหม่อีกครัเง เพราะว่าคุณจะได้ทำสิ่งที่รู้สึกเหมือนกับเกม เมื่อคุณกลับไปเล่นมันใหม่อีกครั้ง และเลือกทางเลือกที่แตกต่างออกไป ผมคิดว่ามันเหมือนกับจิตวิญญาณของเกมมากเลยทีเดียว”
Until Dawn มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 8 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้