สีสันบนเสื้อผ้า สัญญะที่ไมค์ ฟลานาแกน
ซ่อนไว้ใน The Fall of the House of Usher
เดินทางมาถึงเรื่องที่ 5 แล้วสำหรับซีรีส์จากฝีมือของไมค์ ฟลานาแกน กับเรื่อง The Fall of the House of Usher เรื่องราวการล่มสลายของตระกูลอัชเชอร์ที่เป็นดั่งราชวงศ์ของโลก เมื่อทายาทของตระกูลเริ่มตายไปทีละคน ดังนั้นจุดเด่นของซีรีส์ก็คือ เหล่าทายาทของร็อดเดอริก อัชเชอร์ ซึ่งพวกเขาซ่อนสัญญะบางอย่างไว้บนเครื่องแต่งกาย สัญญะที่เชื่อมโยงได้ถึงบาปทั้ง 7 ประการตามความเชื่อคริสต์
วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า แต่ละคนสื่อถึงสีอะไร และบาปอะไรบ้าง?
พรอสเพโร – สีแดง บาปแห่งโทสะ
ถ้าลองสังเกตดูดี ๆ ทุกฉากที่พรอสเพโรปรากฎตัว บนร่างกาย หรือของใช้ของเขาจะมีสีแดงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงสีแดง, เสื้อหลายสีแดง หรือรถหรูคันสีแดง แถมในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาถูกพ่อ (ร็อดเดอริก) ปฏิเสธแผนธุรกิจ บวกกับความบาดหมางระหว่างเขากับพี่ชายคนโต เฟรดเดอริก ทำให้เขาถ่ายทอดงานปาร์ตี้มรณะออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว ในตอนนั้นเองที่ เวอร์นา สาวปริศนาปรากฎตัวออกมาในชุดสีแดงเพลิง พร้อมหน้ากากหัวกะโหลกราวกับจะสื่อถึงความตาย ฉากที่เธอคุยกับพรอสเพโร แสงไฟสีแดงก็สาดอาบร่างเธอจนทั่ว
สีแดง ไม่ได้เป็นเพียงแค่สีที่สื่อถึงพลังงาน ความก้าวร้าว และความหลงใหลเท่านั้น แต่มันยังสื่อถึง ความตาย, โรคร้าย และไฟจากนรกด้วย
คามิล – สีขาวและสีฟ้าอ่อน บาปแห่งความเกียจคร้าน
ดูเผิน ๆ แล้วความเกียจคร้านดูจะไม่เกี่ยวกับคามิล แต่ถ้าสังเกตดี ๆ นี่แหละคือคามิล เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เธอสั่งให้ผู้ช่วยของเธอทำทั้งสิ้น รวมไปถึงการเสพสุขทางเพศ ที่เธอเพียงแค่นอนเฉย ๆ ให้ผู้ช่วยของเธอจัดการให้เธอสำเร็จกิจ มาลองดูการแต่งกายของเธอกัน เธอมักจะปรากฎตัวมาในเครื่องแต่งกายที่ผสมระหว่างสีขาวและสีฟ้าอ่อน ผมสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่สีขาวเป็นสีที่ตรงข้ามกับสีดำ สามารถฉายสาดสีดำให้หายไปได้ ไม่ต่างกับการที่คามิลทำหน้าที่เป็นพีอาร์ในกับตระกูล ปั้นแต่งสาดเรื่องราวเปลี่ยนความเน่าเฟะของเหล่าอัชเชอร์ให้บริสุทธิ์ สีฟ้าอ่อนก็เป็นสีของบาปแห่งความเกียจคร้าน ดังที่กล่าวไปนั่นเอง
นโปเลียน – สีเหลือง บาปแห่งโลภ
ชายที่ดูจะไร้พิษไร้ภัยที่สุดในบรรดาพี่น้องคนนี้ แบกรับบาปแห่งตัณหาเอาไว้ เริ่มตั้งแต่ฉากเปิดตัวของเขา เราจะเห็นเขากำลังให้ผู้หญิงคนหนึ่งออรัลเซ็กส์ให้ ก่อนที่จะเราจะได้รู้ถัดมาว่า เขามีแฟนอยู่แล้วชื่อ จูเลียส ซึ่งถ้าเรามองไปรอบ ๆ ห้องของเขาให้ดี เราจะเห็นการตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองเป็นหลัก หรือจะเป็นรถสปอร์ตสุดหรูของเขาที่เป็นสีเหลืองเด่น ไม่เพียงเท่านั้นนโปเลียนยังติดยาแบบตัวพ่ออีกด้วย ติดหนักถึงขั้นที่ภาพตัดไปแล้วเผลอจัดการแมวของแฟนจนสิ้นชีวิต
สีเหลือง เป็นตัวแทนของความหุนหันพลันแล่น, ความหมกมุ่น และการทรยศ และที่มากกว่านั้นคือมันเป็นสีของบาปแห่งความโลภ
วิคตอรีน – สีส้ม บาปแห่งความตะกละ
ลูกสาวนอกสมรสคนโตที่สุดของตระกูลอัชเชอร์ เธอแบกรับความกดดันจากพ่อที่จะต้องทำการทดลองให้สำเร็จ เทคโนโลยีควบคุมหัวใจที่จะพลิกโฉมหน้าการแพทย์ไปตลอดกาล วิคมักจะปรากฎตัวออกมาอย่างโดดเด่นในชุดสีส้ม เปลี่ยนเฉดสีไปบ้าง เปลี่ยนลายไปบ้าง หรือจะในห้องทำงานของเธอ ตรงฉากหลังของชั้นวางของก็ยังเป็นสีส้ม
ในทางจิตวิทยานั้น ทางบวก สีส้มหมายถึง ความทะเยอทะยาน, ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นกันเอง ขณะเดียวกันในทางลบ มันก็สามารถหมายถึงความเศร้าโศก และความตายได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว นี่ยังเป็นสีของบาปแห่งความตะกละด้วย
แทมเมอร์เลน – สีเขียว บาปแห่งความริษยา
ลูกสาวในใส้คนเดียวของร็อดเดอริก และ แอนนาเบล ลี เรามักจะเห็นเธอในอารมณ์หงุดหงิดตลอดเวลา ขณะเดียวกันเธอสวมเครื่องแต่งกายสีเขียวอยู่ตลอด บ้านของเธอก็ตกแต่งผนังด้วยสีเขียว งานเปิดตัวสินค้า GoldBug เธอก็สวมชุดสีเขียว สิ่งของทุกอย่างในงานมีสีเขียวเป็นองค์ประกอบทั้งหมด ในตอนที่เธอจากไปทั้งห้องก็สาดไปด้วยแสงสีเขียวเช่นกัน
ในทางบวก สีเขียวหมายถึงการเกิดใหม่, อายุที่ยืนยาว และความเป็นอมตะ แต่เมื่อสลับด้านแล้ว มันคือสีแห่งความรู้สึกต้องการครอบครองด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ มันเป็นสีของบาปแห่งความริษยา
เฟรดเดอริก – สีน้ำเงินและ(อาจจะ)สีม่วง บาปแห่งตัณหาและอัตตา
ลูกชายคนโต ผู้สืบมรดก และชายผู้ต้องการความรักจากพ่อ มันจึงไม่แปลกที่เขาจะโหยหาความรัก จนเมื่อเขาถูกหักหลัง ถูกอย่างในจิตใจพังทลาย จนทำให้เขากลายเป็นคนที่แสนโหดร้าย ทั้งการเสพย์ยา และการวางยาภรรยาที่นอนติดเตียงของตัวเอง ความถือดีอวดดีที่มักจะปรากฎออกมาเสมอเมื่อเขาโกรธ เขามักจะสวมชุดที่มีสีน้ำเงินอยู่เสมอ ซึ่งสีฟ้าเป็นสีของบาปแห่งตัณหา ขณะเดียวกันเขายังสื่อถึงสีม่วงได้ด้วยเหมือนกัน
ในวาระสุดท้ายของเขา แสงที่สาดเข้ามามันแทบจะเป็นสีน้ำเงินอมม่วง บวกกับพฤติกรรมของเขาก็พอจะทำให้เชื่อได้ว่า สีม่วงที่หล่อหลอมเขา สีที่สื่อถึง อำนาจและราชวงศ์ และเป็นตัวแทนของบาปแห่งอัตตา จึงเหมาะกับเขาที่สุดเช่นเดียวกัน
แม้ว่างานชิ้นนี้ของ ไมค์ ฟลานาแกน จะดัดแปลงมาจากผลงานเรื่องสั้น และบทกวีของ Edgar Allan Poe เรื่อง The Masque of the Red Death ที่มีการพูดถึงห้อง 7 ห้องที่เจ้าชายอันแสนเหลวไหล พรอสเพโร ต้องเพชิญ ห้องทั้ง 7 มีสีทั้งเจ็ดอยู่ แต่ก็ไม่ได้สื่อถึงบาปทั้ง 7 ประการชัดนัก นั่นจึงพอจะทำให้เดาได้ว่า การใส่เรื่องของบาปทั้ง 7 เข้ามา ผสมกับลีลาการเล่าเรื่องอันร้ายกาจ นั่นจึงทำให้ The Fall of the House of Usher เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่มีเสน่ห์น่าจดจำของชายคนนี้
The Fall of the House of Usher หรือ จุดจบบ้านปีศาจ สตรีมครบทุกตอน (8 ตอน) แล้ววันนี้บน Netflix
