ฝันร้ายของ ฟินนีย์ เบลค ยังไม่จบลง เพราะว่า เดอะ แกร็บเบอร์ ฟื้นจากความตายขึ้นมาตามล่าเขาอีกครั้งใน The Black Phone 2 (2025) หรือ สายหลอน ซ่อนวิญญาณ 2 และในครั้งนี้เดิมพันทุกอย่างจะสูงขึ้นไปอีกขั้น ตามที่ผู้กำกับ สก็อตต์ เดอร์ริคสัน ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับทาง โททัล ฟิล์ม
“เหตุผลที่ผมอยากที่จะทำหนังเกี่ยวกับโรงเรียนมัธยมปลาย ก็เพราะว่ามันมีการเดิมพันทางอารมณ์ที่น่าสนใจมากกว่า”
“มันต้องการอารมณ์แตกต่างจากหนังเรื่องราวเหนือธรรมชาติของนักเรียนมัธยมต้น แน่นอนว่าคุณจะต้องการความรุนแรงมากขึ้น และก้าวร้าวมากขึ้น และบางทีก็อาจจะน่าตกใจมากขึ้นกว่าเดิมด้วย เพื่อที่จะยกระดับแง่มุมต่าง ๆ ของหนัง ให้เหนือไปกว่าที่หนังภาคแรกทำเอาไว้ เพราะว่าผู้ชมจำนวนมาก ที่เป็นวัยรุ่นที่โตมากับความชื่นชอบใน The Black Phone พวกเขาโตขึ้นแล้วในตอนนี้”
“พวกเขาคือเด็กที่เสียเงินไปดู Terrifier ดังนั้นแน่นอนว่ามันจะมีความเข้มข้นและความโหดมากขึ้น พวกเราได้รับเรตอาร์ และหนึ่งในสิ่งที่ทำให้พวกเราโดนมอบเรตอาร์ก็คือความโหด มันไม่มีความโหดในหนังภาคแรกเลย”
“ความเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องผ่านมันในระหว่างช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลาย อาจจะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เร้าอารมณ์มากที่สุดที่คุณต้องผ่านมันในชีวิตนี้ และผมก็ตื่นเต้นเอามาก ๆ กับสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้กลายมาเป็น เนื่องจากได้ผ่านอะไรบางอย่างที่แสนพิเศษมา”
“ผมไม่อยากที่จะเพิ่มความเข้มข้นให้กับความรุนแรงและความสยอง เพื่อที่จะแสดงออกว่าท้าทายยิ่งขึ้น ผมสนใจในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่า การเจาะลึกลงไปในหลายอารมณ์ของเหล่าตัวละครพวกนี้ และพยายามที่จะสร้างหนังที่ทำงานได้ในฐานะภาพยนตร์คู่”
เมสัน เทมส์ และ อีธาน ฮอว์ค, มาเดอลีน แม็คกรอว และ เจเรมี่ เดวี่ส์ จะกลับมารับบทบาทเดิมทั้งหมดในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ สมทบด้วยทีมนักแสดงชุดใหม่ที่ประกอบไปด้วย เดเมียน บิชีร์, มิเกล มอร่า, อาเรียนนา ริวาส และ แอนนา ลอร์
Black Phone 2 หรือ สายหลอน ซ่อนวิญญาณ 2 มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 16 ตุลาคม 2025
