ความรู้สึกของ เบนนี่ แซฟดี้ ที่มีต่อ The Smashing Machine ผลงานกำกับเดี่ยวเรื่องแรกของเขา

เบนนี่ แซฟดี้ และ จอช แซฟดี้ สร้างชื่อร่วมกันมาในฐานะผู้กำกับของ Good Time (2017) และ Uncut Gems (2019) หรือ เพชรซ่อนเหลี่ยม ก่อนที่ทั้งสองจะแยกทางกันมาทำงานเดี่ยวของตัวเอง โดย จอช ทำงานในภาพยนตร์ Marty Supreme ที่นำแสดงโดย ทิโมธี ชาลาเมต์ ส่วน เบนนี่ ทำงานในภาพยนตร์ The Smashing Machine ที่นำแสดงโดย ดเวย์น จอห์นสัน

โดย แซฟดี้ คนน้อง ได้พูดถึง The Smashing Machine เอาไว้ว่า เป็นการออกสำรวจความแตกต่างระหว่างรูปลักษณ์ภายนอก และสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวของ มาร์ค เคอร์

“ผมหมกมุ่นมากจริง ๆ กับความเข้าอกเข้าใจแบบสุดโต่ง”

“ผมอยากที่จะสร้างหนังที่จริงใจมาก ๆ สักเรื่อง เกี่ยวกับว่ามันเป็นยังไงที่จะแข่งขันและรู้สึกแบบนั้น ผู้ชมเห็นคุณเป็นเพียงแค่ชายตัวใหญ่, ชายผู้แข็งแกร่ง พวกเขาไม่รู้ว่าคุณกำลังต้องเผชิญความยากลำบากอื่น ๆ อะไรอยู่ มันสามารถเป็นอะไรที่โดดเดี่ยวมาก ๆ”

หนึ่งในวัตถุดิบที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง The Smashing Machine ก็คือสารคดี The Smashing Machine: The Life and Times of Extreme Fighter Mark Kerr (2002) ที่เล่าเรื่องราวความเจ็บปวด, การเสพติด และความสัมพันธ์ในชีวิตของ เคอร์ ซึ่ง แซฟดี้ ได้พูดถึงมันเอาไว้ว่า

“ทันทีที่ผมได้ดูมัน ผมรู้สึกเชื่อมโยงกับ มาร์ค อย่างสมบูรณ์แบบ”

“มันมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเขา เขาเป็นคนที่พูดด้วยนํ้าเสียงนุ่มนวล และอ่อนโยน และวิธีการที่เขาใช้คำพูดมันงดงามมาก มันเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับความคิดเหมารวมที่มีต่อเขา”

“ผมคิดว่ามันเป็นอารมณ์ที่สำคัญของมนุษย์ที่ควรจะศึกษา ผมชอบที่จะได้เห็นใครสักพยายาม พยายามอย่างมากที่จะทำอะไรสักอย่าง เพราะว่าเมื่อคุณได้เห็นพวกเขาพยายาม พวกเขาเปราะบางเอามาก ๆ”

The Smashing Machine ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์เป็นอย่างสูง โดยเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ รอตเทนโทเมโทส์ ของภาพยนตร์เรื่องนี้จำนวน 28 คน สูงถึง 82 เปอร์เซ็นต์

The Smashing Machine มีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ ​9 ตุลาคม 2025

Comments

comments