จากทหารผ่านศึกพิการที่เดินทางมายังดาวแพนโดร่าเมื่อหลายปีก่อน ในตอนนี้ เจค ซัลลี ในฐานะของชาวนาวีอย่างเต็มตัว ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อ เนเทยัม ลูกชายคนโตของเขาเสียชีวิตลงในระหว่างการต่อสู้กับ อาร์ดีเอ ทำให้เขาและครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับความโศกเศร้า และความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน
โดยผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ได้ออกมาเปิดเผยกับทางนิตยสาร เอ็มไพร์ เอาไว้ว่า ภาพยนตร์ภาคที่สามที่มีชื่อว่า Avatar: Fire and Ash หรือ อวตาร อัคนีและธุลีดิน จะดำเนินเรื่องหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่สามผ่านไปเพียงสองสัปดาห์ ทำให้บาดแผลจากการสูญเสีย เนเทยัม ยังคงสดใหม่อยู่มากสำหรับทุกคน
“ทุกคนในหนังเรื่องนี้กำลังตอบสนองจากบาดแผล”
“ทุก ๆ คนเลย เจค กำลังเรียบเรียงความคิดเกี่ยวกับการตายของลูกชายของเขา โลอัค กำลังเรียบเรียงความคิดเกี่ยวกับการตายของพี่ชายของเขา และความรู้สึกผิดของเขาต่อมัน”
ตามมาด้วยความคิดเห็นของ แซม เวิร์ธธิงตัน นักแสดงผู้รับบทเป็น เจค ที่เปิดเผยว่าแง่มุมของการเป็นคนที่รักและปกป้องครอบครัวของตัวละครของเขา ได้ถูกกัดกร่อนลงไปด้วย หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
“เจค ผู้ตามหาความสงบในภาคที่สองได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะว่าเขากำลังโศกเศร้า”
“เขาไม่รู้ว่าจะเดินหน้าต่อไปยังไง ทำให้เขาต้องกลับไปยังโลกที่เขารู้จัก ซึ่งคือโลกของการทหาร เพื่อที่จะโจมตี เพื่อที่จะเข้าสู่สงคราม นั่นเป็นสถานที่ที่ เจค สบายใจ”
นักแสดงชาวอเมริกัน ยังได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เจค และ เนย์ทิรี ที่ก็ได้รับผลกระทบจากการเสียชีวิตของ เนเทยัม ด้วย
“เป็นเพราะว่าความตายของ เนเทยัม ในตอนนี้มันมีรอยแยกในความสัมพันธ์นั้นแล้ว”
“มันเป็นการออกแบบที่ยอดเยี่ยมโดย จิม คุณจะแบ่งแยกเรื่องราวความรักที่สมบูรณ์แบบได้อย่างไร? เจค และ เนย์ทิรี แบ่งปันบาดแผลที่เจ็บปวดนี้ด้วยกัน แต่ทว่าพวกเขาเหมือนจะไม่สามารถรักษากันและกันได้ ดังนั้นก็เหมือนกับว่าพวกเขาแยกทางกันไป ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาต้องการหรอก แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาเพียงแค่พยายามที่จะเอาตัวรอดด้วยตัวเอง เจค หวนกลับไปสู่การต่อสู้ และ เนย์ทิริ ก็เหมือนกับจะปิดตัวเองลงไป”