เพราะว่าความตายเป็นเรื่องที่ใครก็หนีไม่พ้น และมันก็พร้อมที่จะตามมาหลอกหลอนได้ทุกเมื่อ นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่แฟรนไชส์ที่เล่าเรื่องความตายอย่าง Final Destination หรือ ไฟนอลเดสติเนชั่น ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้งในรอบสิบสี่ปี กับภาพยนตร์ภาคที่หกที่มีชื่อว่า Final Destination: Bloodlines หรือ ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย
ซึ่งความคิดดังกล่าว ก็ตรงกับสิ่งที่ เคร็ก เพอร์รี่ นักออกแบบงานสร้างคู่บุญของแฟรนไชส์นี้ ที่ทำงานกับแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ภาพยนตร์ภาคแรกในปี 2000 ได้บอกเอาไว้ในการให้สัมภาษณ์กับทาง โคลไลเดอร์
“ผมคิดว่ามนต์ขลังของ ไฟนอลเดสติเนชั่น ก็คือมันเกี่ยวกับความคิด ความคิดที่ว่าโชคชะตาเข้ามามีส่วนในชีวิตของคุณหรือไม่ มันเป็นอะไรที่ไม่ใช่เพียงแค่ทุกคนมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับมันเท่านั้น ทุกวัฒนธรรม, ทุกประเทศ, ทุกคนบนโลกล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับมัน”
“ดังนั้นผมคิดว่า ไฟนอลเดสติเนชั่น ในฐานะของเครื่องหมายการค้า, ในฐานะของทรัพสินทางปัญญาชิ้นหนึ่ง และในฐานะของความคิดจะคงอยู่ต่อไปตลอดกาล ไม่ว่าผมจะยังอยู่ตรงนี้หรือไม่”
Final Destination: Bloodlines หรือ ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักศึกษาวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่ต้องเจอกับฝันร้ายที่รุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงมุ่งหน้ากลับบ้านเพื่อตามหาคน ๆ หนึ่งที่เป็นผู้เริ่มต้นวงจรนี้ และช่วยครอบครัวของเธอจากการตายอันน่าสยดสยองที่รอพวกเขาอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Final Destination: Bloodlines หรือ ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย มีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025